โปรโมทเว็บไซต์คุณกับแอดยิ้มวันนี้ กระจายโฆษณาของคุณ สู่เว็บไซต์คุณภาพ

บทความล่าสุด

เว็บไซต์ e-commerce เขียนเว็บ HTML php Hosting

วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กลโกงออนไลน์ ที่ต้องระวังตัว

กลโกงรูปแบบต่างๆ (Internet Fraud and Criminal)
  • การทำ Phishing
    การหลอกลวงขั้นสูงทางอินเตอร์เน็ตในรูปแบบของการปลอมแปลงอีเมล์ หรือข้อความที่สร้างขึ้นเพื่อหลอกให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลทางด้านการเงินหรือ ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ อาทิ ข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขประจำตัวผู้ใช้ (User name) รหัสผ่าน (password) หมายเลขบัตรประจำตัว อ่านเพิ่มได้ที่
    • หลอกคนเข้าเว็บเพื่อแอบขโมยข้อมูลด้่วยเทคนิค ตกปลาโง่ (Phishing) - phishing คืออะไร
    • เทคนิคการโจมตีแบบ "Phishing"
    • แฉ 7 กลลวงสแปมเมลใหม่ ฉลองอีเมลขยะอายุครบ 30 ปี

  • ขโมยเลขบัตรเครดิต
    • ลักลอบดักข้อมูลบัตรเครดิตก่อนจะส่งถึงธนาคาร
               วิธีนี้ค่อนข้างใช้เทคนิค และความรู้เฉพาะทางของคนร้าย โดยแอบเชื่อมต่อดักการเก็บข้อมุลกับสายสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นสายให้เช่า (Lease line) หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่าง เอดีเอสแอล (ADSL) ที่ผ่านมาทางสัญญาณโทรศัพท์ แล้วแอบดักจับข้อมูลลูกค้าระหว่างทาง หรือระหว่างการใช้งาน internet หลังจากนั้นจะเอาข้อมูลที่ได้มาถอดรหัส แล้วนำไปใช้ในทางทุจริตต่อไป ข้อแนะนำ
      ควรอยู่ใกล้ในบริเวณที่ร้านค้าทำการรูดบัตรเพื่อสังเกตการณ์ทำรายการของ พนักงาน ชำระเงิน และ ควรระมัดระวังและสอบถามสาเหตุหรือความจำเป็นของเจ้าหน้าที่บัตรกรณีที่ต้อง ให้ข้อมูลบัตรก่อนที่จะบอกข้อมูลส่วนตัวแก่พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้อ้าง ตัว สำหรับการซื้อของออนไลน์ เมื่อถืงหน้าที่จะต้องกรอกหมายเลขบัตรเครดิต ควรสังเกตุให้ดีกว่า หน้านั้นได้เข้าสู่การเข้ารหัสไว้รึเปล่า โดยสังเกตุได้จาก รูปกุญแจ ที่หน้าต่างของ browser  ซึ่งถ้าหากมี แสดงว่าหน้าที่คุณกำลังจะกรอกข้อมูลบัตรเครดิต มีการเข้ารหัสไว้แล้ว คนที่ดักข้อมูลของคุณไประหว่างทาง จะไม่สามารถเปิดข้อมุลได้ เพราะจะมีการเข้ารหัสด้วยเทคโนโลยี SSL (Secure Socket Layer) เอาไว้แล้ว

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สาเหตุที่เว็บ E-Commerce ไม่ประสบความสำเร็จ

สาเหตุที่เว็บ E-Commerce  ไม่ประสบความสำเร็จ

สาเหตุที่เว็บ ไม่ประสบความสำเร็จ

การ ทำอีคอมเมิร์ชนั้น คงไม่ใช่แค่เพียงการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมา แล้วใครต่อใครก็ต่ออินเทอร์เน็ตเข้าไปดูกันได้เท่านั้น เพราะหากว่าไปแล้ว เว็บไซต์ก็เหมือน "ภาพพจน์" หนึ่งของบริษัท หากท่านอยากทำเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จ ควรคำนึงถึงอุปสรรคเหล่านี้ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญวัดชะตาว่าเว็บของท่านจะ รุ่งหรือร่วง

1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น ขาดรายละเอียดทั้งในเรื่องของวัสดุ การใช้งาน และข้อมูลต่างๆ
ที่ ลูกค้าต้องการเพิ่ม ที่สำคัญ นโยบายรับคืนสินค้า หลายเว็บไซต์มักเกรงปัญหาของคืน จึงไม่ได้ใส่เงื่อนไขสำคัญนี้ในเว็บของตน หรือบางเว็บไซต์ก็ใส่ข้อมูลที่เยอะมากเกินไป กว่าลูกค้าจะคลิกเข้าไปซื้อของได้ก็เสียเวลาเปิดเข้าไปในแต่ละหน้านานมาก

2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้ หรือขาดความรู้ในการเข้าถึงเทคโนโลยี
มีผู้ประกอบการหลายราย เปิดเว็บไซต์แล้ว ไม่ได้ตรวจอีเมล์ หรือตอบช้าเกินไป

3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ หลายเว็บเกิดขึ้นมาแบบขาดการวางแผน เห็นธุรกิจอื่นมีเว็บกัน ก็แค่อยากมีกับเขาบ้าง

4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
ดังนั้น เมื่อเปิดเว็บแล้ว ต้องติดตาม ตรวจสอบสถิติ และพัฒนาเว็บไซต์ของตนให้ทันสมัยอยู่เสมอ

แชร์ประสบการณ์การทำ ธุรกิจ E-Commerce

ขอแชร์ประสบการณ์ตรงของผมนะครับ อาจจะอ่านงง ๆ เพราะผมพิมพ์เลย ขี้เกียจมานั่งเกลา 

ส่วน ตัวทำเว็บขายต่างประเทศมาหลายปีแล้ว ขายกระเป๋าหนังครับ ทุกวันนี้มีออร์เดอร์สั่งมาเฉลี่ยวันละ 10 ใบ (ชิ้นนึงหักลบแล้วผมได้กำไรอย่างต่ำ 500 บาท) ยังไม่นับคู่ค้าที่ซื้อไปขายต่อ ที่มีมาประจำทุกเดือน ผมขอแบ่งการทำงานของผมดังนี้นะครับ

Website
หัวใจหลักของธุรกิจ ของผม เพราะเราไม่มีหน้าร้าน ลูกค้าไม่สามารถจะจับต้องสินค้าได้ก่อนตัดสินใจซื้อ ฉะนั้นต้องคิดให้ดีว่า ออกแบบยังไงให้สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ ซึ่งการทำงานในส่วนนี้ผมแบ่งย่อยลงไปอีก

1. Design
ผมเคยทำงานออก แบบเว็บไซต์ครับ พอตัดสินใจกระโดดมาจับสินค้าและสร้างเว็บส่วนตัว แรกเริ่มเลยออกแบบเว็บอย่างเทพครับ ใส่แฟลชอลังการ หน้าเว็บประกายวูบวาบ กะว่าลูกค้าเข้ามาต้องประทับใจในฝีมือการออกแบบของผมแน่ ๆ  แต่ผมคิดผิด!!! ทำอยู่ปีแรก ไม่มีออร์เดอร์เลยครับ ตอนนั้นก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ทำไมไม่มาซื้อสินค้า ทั้ง ๆ ที่ราคาก็ไม่แพง (เรื่องการตั้งราคาขอข้ามก่อนไว้อ่านต่อด้านล่าง) คิดจนหัวแตก เลยตัดสินใจเปิดดูเว็บขายสินค้าของต่างประเทศ เว็บเหล่านี้ออกแบบง่าย ๆ ครับ สะอาดสะอ้าน มีการวางลิงค์เข้าหาสินค้าชัดเจน พูดง่าย ๆ เปิดมาปุ๊ปซื้อของได้ปั๊ป ไม่ต้องมานั่งดู Flash Intro หรือความหาทั้งเพจเพื่อจะเข้าไปดูโปรดักซ์ แต่สุดท้ายก็ยังไม่เจอ?!!? ผมจึงปรับปรุงรูปแบบเว็บใหม่ กว่าจะลงตัวทุกวันนี้ได้ ก็เปลี่ยนไปสองสามครั้งครับ และก็ยังคงคิดที่จะพัฒนาปรับปรุงมันอยู่ทุกวัน

2. Promote
มีเว็บแล้ว ต้องป่าวประกาศครับ ว่าเราขายอะไร ในที่นี้ผมทำอะไรบ้างมาดูกัน

1.1 SEO
ได้ เว็บหน้าตาใหม่แต่งสูทผูกไทอย่างดีแล้ว แต่จำนวนออร์เดอร์ก็ยังไม่มาตามที่ผมคาดหวังไว้ เอาล่ะวา!! เกิดอะไรขึ้น เริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ที่มันไม่มีคนมาซื้อของ ๆ เรา อาจจะเป็นไปได้ว่า ๆไม่มีใครรู้ว่าเราทำเว็บนี้ขึ้นมา หรือเขาอาจจะค้นใน Search Engine ไม่เจอเว็บเราก็เป็นได้ เพราะได้คำตอบแล้ว ก็เริ่มศึกษา SEO แล้วล่้ะครับ และผมตั้งเป้าไว้ว่า จะโปรโมทเว็บโดยไม่ใช้ PPC เลย (ตอนนั้นไม่มีทุน) ผมใช้เวลาสามเดือน ทำให้เว็บติดอันดับต้นๆใน google จนได้ ซึ่งวิธีการ ผมก็หาอ่านเอาในเว็บนี่แหละครับ ซื้อหนังสือมาบ้าง ปรับออนเพจ ใส่คีย์เวิร์ดเดนซิตี้ กันสนุกมือ ซับมิต SB, SE กระจาย สุดท้ายก็สำเร็จดังตั้งใจไว้ครับ แต่ก็ยังไม่หยุดที่จะทำมันต่อไป

1.2 Classified Board
ตอน ที่ยังรับงานออกแบบเว็บอย่างจริงจัง ผมใช้วิธีโพสต์ตามเว็บลงประกาศ โพสต์โปรโมทเว็บให้กับลูกค้า ซึ่งก็ได้ผลดีระดับนึงเลยครับ แต่ต้องไม่ลืมใส่ลิงค์ของเว็บลงไปด้วยนะ ทีนี้พอมาขายสินค้าเอง ก็ยังใช้วิชานี้ในการเรียกลูกค้าเข้าร้านอยู่ครับ แต่เปลี่ยนจากโพสต์ในเว็บลงประกาศในไทย ก็ไปหาเว็บของต่างประเทศแทน อยากได้ประเทศไหนก็ค้นประเทศนั้นเลย เช่น usa classified board, uk free classified เป็นต้น ทำลิสต์ไว้แยกเป็นประเทศ ผมจะมีเว็บดู Worldtime (หาไม่ยาก) เพื่อดูว่าขณะที่เราโพสต์อยู่เนี่ย ประเทศนั้น ๆ กี่โมงแล้ว ถ้าโพสต์ไปแล้ว เขาจะมาเห็นโฆษณาเรามั้ย เพราะประกาศฟรีทั้งหลายมันจะลงไปเร็วมา โพสต์ชั่วโมงสองชั่วโมง ประกาศของเราก็ถูกผลักจนหายไปเลย

1.3 Email Marketing
ในเว็บของ ผมจะมีหน้าสำหรับให้ผู้เยี่ยมชมสมัครเพื่อรับข่าวสารจากทางเว็บ ผมก็ใช้ช่องทางนี้แหละครับ โปรโมทสินค้าใหม่ หรืออาจจะมีจัดรายการโปรโมชั่นส่งเฉพาะผู้ที่สมัครรับข่าวสารจากทางเรา คิดกลยุทธ คิดการตลาดไปเรื่อย ๆ สนุกครับ

1.4 Social Network
อัน นี้ผมเพิ่งลองได้ไม่นาน ก็เห็นว่าน่าจะไปได้ดีทีเดียว ผมเลือกใช้อยู่สองตัวคือ Facebook และ Twitter เอาไว้ส่งข่าวสาร พูดคุย รับฟังข้อติชม เพื่อเอามาพัฒนาสินค้าของเรา และเป็นการสร้าง CRM (Customer relationship management) ที่ง่ายและได้ผลดีระดับนึง

กลยุทธ์การตั้ง ราคาสินค้า Online

ปัญหาที่ผู้ประกอบการอยากรู้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง ก็คือ เรื่องการตั้งราคาสินค้า เนื่องจากการขายของผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้น แม้ว่าจะไม่มีพรมแดน เรื่องการสั่งซื้อ แต่ก็จะมีปัญหาค่าขนส่งซึ่งเมื่อบวกค่าสินค้าเข้าไปแล้ว ลูกค้าบางคนอาจจะรู้สึกว่า “ซื้อแพง” ?

เมื่อย้อนไปดูพื้นฐานของการตั้งราคาสินค้าในช่องทางการขายปกตินั้น เราคำนึงถึง 3 ปัจจัยต่อไปนี้
1. ต้นทุนการผลิตสินค้า
ตั้งแต่วัตถุดิบ การขนส่งวัตถุดิบมาเพื่อแปรรูป พัฒนาคุณภาพ บรรจุภัณฑ์ที่พร้อมจำหน่าย

2. ราคาของคู่แข่งขัน
หาก สินค้าเราไม่ใช่สินค้าใหม่ถอดด้ามก็ต้องคำนึงถึงราคาของสินค้าคู่แข่งที่วาง ตลาดไว้ หากเทียบคุณภาพแล้ว ใกล้เคียงกัน เราก็ไม่สามารถที่จะตั้งราคาสูงกว่าเขาได้ แต่ถ้ามั่นใจว่าสินค้าเรามีคุณภาพดีกว่า เราก็สามารถที่จะทำราคาเหนือคู่แข่งด้วย ที่สำคัญต้องให้ลูกค้า หรือผู้ซื้อรู้สึกเช่นนั้นด้วย เขาจึงจะยอมจ่ายแพงกว่า

3. ค่าดำเนินการต่างๆ
ราคา สินค้าที่ผู้บริโภคคนสุดท้ายจ่ายในปัจจุบันนั้น ได้รวมถึงค่าโฆษณา ค่าฝากขาย และค่าดำเนินการต่างๆ อย่างมากมาย แม้แต่ในอินเทอร์เน็ตเอง การที่ลูกค้าใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าของเราบนเว็บไซต์ ธนาคารก็คิดค่าธรรมเนียม 3-5% ของราคาขายด้วย

ปัจจัยดังกล่าวนี้ ล้วนมีผลในการตั้งราคาขายสินค้าทั้งสิ้น

แต่ การขายสินค้าบนอินเทอร์เน็ตนั้น สามารถลดต้นทุนในค่าดำเนินการต่างๆ ไปได้มาก เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าพนักงานขาย ค่าน้ำ ค่าไฟ ดังนั้นจึงทำให้ต้นทุนส่วนนี้ สินค้าหลายประเภทจึงสามารถตั้งราคาขายได้ต่ำกว่าช่องทางการค้าปกติ

อีก ประการหนึ่งการขายสินค้าบนอินเทอร์เน็ตนั้น ผู้ประกอบการ SMEs ไม่จำเป็นต้อง สต๊อกสินค้าเป็นจำนวนมาก เพราะลองทำ สินค้าตัวอย่างขึ้นมา แล้วประชาสัมพันธ์ให้คนเข้ามาดู หากสนใจจึงค่อยผลิต โดยวิธีการเหล่านี้ก็ช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบได้มาก และเมื่อผลิตแล้วก็สามารถสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

ค้าขาย สต็อกล้น หรือ สต็อกบวม

ปัญหาแรกของธุรกิจค้าขาย คือ สต็อกล้น หรือ สต็อกบวม อันนี้ไม่จำเป็นครับเราเปิดขาย online แล้ว ขายคนนี้ รอไม่ได้ ไมเป็นไร ขายคนที่สองครับ ขายได้เราเอาเงินลูกค้ามัดจำ
ไปซื้อสินค้ามาส่งต่อ เจ็บตัวน้อย ได้กำไรแน่นอน ถ้าเราสต็อก และถ้าขายไม่ได้แหละบวมแย่ๆ กำไรไปกับของ หมด ไม่เหลือ ครับ ควรสต็อกเท่าที่จำเป็นและจำเป็นจริงๆ จึงจะสต็อกของครับผม

ทำไมชอบขายตัดราคากันเอง

การตัดราคา หรือ อีกอย่างหนึ่งว่า  Red Ocean
ทำการตลาดแบบ Red Ocean จะมีแต่พากันตายหมู่ครับ

เราต้องหนีการทำตลาดแบบเดิมๆ ที่เค้าเรียกกันว่า Blue Ocean ครับ ซึ่งก็ยากพอสมควรครับ แต่ต้องพยายามเพื่อความอยู่รอดครับ ต้องพยายาม หาตลาดใหม่ สินค้าใหม่ หรือกลยุทธใหม่ๆ ที่เพิ่มมูลค่า สร้างความแตกต่าง หนีเลยครับ อย่าลงไปเล่นเลยครับ ตลาด Red Ocean จากประสบการณ์ เล่นไปเล่นมาเหลือแต่ตัวครับ

เราต้องทำให้ตัวเราเหนือกว่าคู่แข่งครับ อย่าไปลดตัวตัดราคา จะทำให้ตัวเองเจ็บตัว แต่เราต้องก้าวล้ำหน้ากว่าคู่แข่งให้ได้ และสุดท้าย ตัวท่านจะเป็นคนที่กำหนดราคา ถือคนอื่นทำแบบไม่ได้กำไรสุดท้ายก้ออยู่ไม่ได้ และตายจากไป

จดทะเบียนพาณิชย์ ร้านค้า e-commerce ดีมั้ย

จดทะเบียนพาณิชย์ ร้านค้า e-commerce ดีมั้ย

เริ่มแรกเรามาดูข้อดีกันดีกว่า
-เว็บไซต์เรา มีความน่าเชื่อถือแน่นอน เพราะอยากที่บอกไว้ว่า เว็บไซต์เราได้จดทะเบียนพาณิชย์แล้วย่อมที่จะมีความน่าเชื่อถือสูง
-ช่วยชาติ...เหอะๆ อุ่นใจ

ส่วนข้อเสีย
-ถ้าคำนวนผลกำไรผิดไปนิดเดียว บางครั้งอาจเสียหนักโดยไม่รู้ตัว
-เวลาเจ็ง ปิดกิจการ อาจดดนหนักเป็น 2-3 เท่า
-สรรพากร มาแน่นอนครับ คุณพร้อมหรือยัง...เหอะๆ พร้อมยังครับ

เตือน ระวังกลโกงจากไนจีเรีย

เตือนภัยเพื่อนๆ ที่ได้รับเมลล์การติดต่อการค้าจากพวกไนจีเรียนะครับ ล่าสุดผมพึ่งได้เมื่อวาน มีบุคคลอ้างตัวว่ามาจากอังกฤษ อยากจะซื้อสินค้าของผมให้ช่วยส่งไปที่ไนจีเรียหน่อย ประเทศนี้เป็นแบล็คลิสต์นะครับ อย่าไปสนใจที่จะทำธุรกรรมต่างๆด้วยเด็ดขาดครับ ไม่งั้นระวังของดีครับ

วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

ถ้าร้านค้า ไม่มีระบบตะตร้า จะโดนภาษีมั้ย

E-commerce ไม่ใช่แค่ร้านค้าออนไลน์ที่มีระบบตะกร้านะครับ คิดง่ายๆ เลยดีกว่า เว็บ commercial โดนแน่ๆ
พวก post เว็บบอร์ดก็ต้องดูไปว่ามีบริษัทหรือเปล่า เพราะโดนอยู่แล้ว แค่เพิ่มช่องการตลาด
พวกทำเว็บส่วนตัวแปะ banner รับเงินก็ใช่ adsense ก็ใช่ ทำไมจะไม่ล่ะ ?

แต่ถ้าส่วนตัวโพสตามบอร์ดก็อาจโดน แต่ช้าหน่อย เบี้ยไบ้รายทาง ไม่แน่ก็รอด ตามยาก

ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยอยู่ในระบบภาษีเลย คือไม่เคยเป็นพนักงานบริษัท ไม่เคยยื่นภาษี ก็จะตรวจสอบยากพอสมควร แต่ถ้าเคยเป็นพนักงานกินเงินเดือนมานาน ส่งภาษีมาตลอด พอขาดการส่งไปสักปี สรรพากรก็จะเริ่มสงสัยแล้วว่า คนๆนี้ไม่มีรายได้แล้ว ดำรงชีวิตอยู่ได้ยังไง แต่ด้วยจำนวนคนที่เป็นแบบนี้มีมากพอสมควร เค้าก็จะเริ่มตรวจจากคนที่เคยส่งภาษีเยอะๆก่อน คำว่าเยอะๆนี่หมายถึง พวกที่รายได้มากกว่าแสนบาทต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะกองๆกันอยู่แถวๆสีลม สาธร อโศก หรือไม่ก็นิคมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ
เพราะฉะนั้นคนที่ทำธุรกิจเอง มีรายได้หลายล้านบาทต่อเดือน จึงมักจะไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในระบบตั้งแต่แรก หรืออย่างน้อยก็ไม่ให้ทายาทเข้าไปอยู่ในระบบ
คนไทยที่จ่ายภาษี 37% ของรายได้ มีประมาณ 60,000 คน จ่ายภาษีร้อยละ 54 ของทั้งประเทศ คนพวกนี้เชี่ยวชาญการเลี่ยงภาษีชนิดที่ยากแท้หยั่งถึง
และมักจะมีที่ปรึกษาเป็น นักตรวจสอบบัญชีระดับเทพ เจ้าหน้าที่สรรพากร และนักกฏหมายชั้นเซียน

เพราะฉะนั้นผมคิดว่า สรรพากรน่าจะไปโฟกัสที่คนพวกนั้นก่อน รายย่อยน่าจะเป็นตอนที่หน้ามืด เก็บเิงินจากใครไม่ได้แล้วจริงๆ

สรรพากรยันไม่มีภาษี อีคอมเมิร์ช

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับคณะอนุกรรมการนโยบายและส่งเสริมพัฒนาการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย นางรัตนา เพ็ชรวิจิตร ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการกำกับและตรวจสอบภาษี กรมสรรพากร กล่าวว่า อีคอมเมิร์ช เป็นวิธีการจำหน่ายสินค้าวิธีหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นไม่มีวิธีคิดภาษีเฉพาะซึ่งผู้ประกอบการที่มีรายได้สรรพากรจะเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลเท่านั้น

ที่มา หนังสื่อพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แนะนำเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ แค่ 550บาท cloth2rich

แนะนำเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ แค่ 550 บาท


เปิดโอกาสทางธุรกิจ ให้กับบุคคลทั่วไป  ที่ไม่มีความรู้ทางเว็บไซต์  ไม่มีเงิน ลงทุนหลักพัน หลักหมื่น    วันนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของ ธุรกิจเสื้อผ้า นำเข้าจากเกาหลีแฟชั่นใหม่อินเทรนด์ด้วย เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 550 บาท   หมดกังวลกับเรื่อง ต่างๆ  การสต็อคของ  การขนส่งสินค้า  การทำบัญชี หรืออื่นๆ   เรามีระบบการจัดการทุกอย่างเตรียมพร้อมไว

ลงทุนเพียง 550 บาท ก็สามารถเริ่มเปิดร้านได้ทันทีเลย ไม่ต้องยุ่งยากมีระบบวางไว้เรียบร้อย
โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าทำเองทุกอย่างตั้งแต่ หาของยันขายของนี้ก็ยุ่งปวดหัวพอตัวอยู่แล้ว
แต่ถ้าเปิดที่่ร้านที่นี้ช่วยได้ขึ้นเยอะเลย แถมมีเวลาขายโปรโมตได้มากกว่าเดิมอีก
ทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้น แถมมีเสื้อหลายแบบ หลายสไตล์ เสื้อผ้านำเข้า แฟชั่นเกาหลี ฮ่องกง เสื้อผ้าแฟชั่น เดรส เสื้อตัวยาว เสื้อผ้าชีฟอง แฟชั่นเสื้อผ้า เสื้อผ้าเกาหลี
ให้เลือกมากายสะดวกคุ้มค่าเลย ที่เดียว


ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 550 บาท ถือว่าเป็นต้นทุนทางธุรกิจที่ถูกมากๆครับสำหรับใครที่จะเริ่มทำธุรกิจ

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เทคนิค ข้อดี ทำเว็บขายสินค้าออนไลน์ หรือ e-commerce

การสร้างเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าบนโลกออนไลน์ คือวิถีใหม่ที่ปฏิวัตินวัตกรรมของการทำธุรกิจจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง เพราะมีข้อดีและจุดคุ้มทุนต่างๆที่เหนือกว่าลักษณะรูปแบบเดิมค่อนข้างมาก


เปิดร้านค้าออนไลน์กันดีกว่า ลงทุนถูกกว่ามีร้านเอง

ความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาตามยุคสมัยได้นำพาสิ่งใหม่ๆเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของผู้คนอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่ที่โดดเด่นและจับต้องได้มากที่สุดคงจะเห็นเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี เพราะการถือกำเนิดขึ้นของเทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นต้องยอมรับว่ามีส่วนช่วยผลักดันและอำนวยความสะดวกให้กับการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ คนให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์อันทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ปัจจุบันนั่นก็คือ 'อินเตอร์เน็ต' หลายคนยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าการถือกำเนิดขึ้นของโลกออนไลน์เสมือนจริงทำให้ชีวิตของพวกเขาแปลเปลี่ยนไปตลอดกาล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการทำธุรกิจ อินเตอร์เน็ตเข้ามามีอิทธิพลอย่างมากในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้นการเปิดเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์             

สำหรับการสร้างเว็บไซต์เพื่อนำมาใช้เป็นสื่อในการขายสินค้า เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ แต่สำหรับในประเทศไทยกลับได้รับความนิยมมากแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะจำนวนคนที่มีกำลังซื้ออย่างแท้จริงอาจจะยังเข้าถึงสื่อประเภท นี้ยังไม่มากมายนัก บวกกับค่านิยมในอดีตที่มักจะเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบเห็นหน้ากันโดยตรง จึงมีผลทางความเชื่อมั่นที่ต้องเปลี่ยนมาซื้อขายโดยที่ไม่เห็นหน้าผ่านจอ คอมพิวเตอร์แทน แต่ในความเป็นจริงการขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจค่อนข้างมากในปัจจุบัน โดยประโยชน์ของการสร้างเว็บไซต์เพื่อขายสินค้ามีดังต่อไปนี้
1. ประหยัด         

ความประหยัดถือเป็นจุดเด่นที่สามารถจับต้องได้ชัดเจนมากที่สุดของการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาขายสินค้า เพราะถ้ามาลองจับคู่เทียบความแตกต่างระหว่างการมีร้านขายสินค้ากับการใช้เว็บไซต์เป็นตัวช่วยขายสินค้าให้ทางบริษัทแล้ว ผู้ประกอบการจะสามารถมองเห็นภาพความแตกต่างได้อย่างชัดเจนว่าการขายสินค้า ผ่านทางโลกออนไลน์จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก เพราะเว็บไซต์แทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลยเพียงแค่เสียค่าโดเมนและค่าทำเว็บ เท่านั้น หรือจะเลือกใช้เว็บสำเร็จรูปก็ยิ่งสะดวก นี่เลยเป็นทางเลือกที่ดีมากในการออกสตาร์ทเริ่มทำธุรกิจ